งู เป็นสัตว์ที่คนกลัวติดอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ อาจเป็นเพราะ รูปร่างหน้าตาที่เกือบทุกคนที่เห็นเป็นต้องถอยมาตั้งหลัก และที่สำคัญ ที่เป็นสาเหตุหลักๆที่ทำให้คนกลัวงู ก็คือ งูบางชนิดมีพิษนั่นเอง งูบางชนิดล่าเหยื่อโดยการพ่นพิษออกมาทางเขี้ยวของมัน พิษของงูบางชนิดนั้นเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ยังผลให้เรามักคิดว่ามันเป็น "สิ่งมีพิษ" เวลาที่เราเดินทางไกลหรือไปตั้งแคมป์ในป่านั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีโอกาสเจอพวกมัน
ผู้ชำนาญด้านสัตว์เลื้อยคลาน ได้อธิบายความแตกต่างระหว่างงูพิษและงูไม่มีพิษเอาไว้ ถึงแม้จะมีงูอีกหลายประเภทที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข แต่เราก็ควรที่จะแยกความแตกต่างเบื้องต้นของงูเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน เพราะในบางครั้งมันอาจเป็นประโยชน์ช่วยคุณในสถานการณ์ที่คับขันได้ แล้วความแตกต่างที่ว่ามีอะไรกันบ้าง
- ดูที่หัว
- สังเกตสี
- ตา
- ร่องระหว่างตากับจมูกของงู
- เสียงสั่น
- เกล็ดใต้ท้องตรงปลายหาง
- ใต้หาง
- ดูรอยกัดในกรณีที่ถูกงูกัด
- ดูตอนที่งูน้ำว่าย
- ดูที่หัว งูพิษส่วนใหญ่จะมีหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด นี่เป็นกฎเบื้องต้นที่ดี แต่อย่าลืมว่ามันมีข้อยกเว้น
- สังเกตสี งูพิษบางชนิดอย่างงูปะการังจะมีสีสดฉูดฉาด
- การจ้องตามัน ข้อมูลที่คุณจะได้จากการสังเกตตรงจุดนี้นั้นบอกคุณได้แค่เพียงเวลาไหนที่งูมันจะตื่นตัว งูชนิดที่เป็นสัตว์ออกหากินกลางคืน จึงมักจะมีรูม่านตาแนวขวาง ส่วนงูที่ออกหากินตอนกลางวันก็จะมีรูม่านตากลม งูพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลกบางพันธุ์ก็มีรูม่านตากลม แต่งูพิษที่โด่งดังอย่างงูหางกระดิ่งก็จะมีรูม่านตาแนวขวาง
- ดูที่ร่องระหว่างตากับจมูกของงู งูพิษปกติจะมีร่องจับความร้อนอยู่บริเวณนั้นเพื่อค้นหาเหยื่อที่มีเลือดอุ่น งูไร้พิษจะไม่มีร่องดังว่า
- เสียงสั่นหรือเปล่า งูที่มีเสียงสั่นตรงหางต้องเป็นงูหางกระดิ่งซึ่งเป็นงูพิษ งูหางกะดิ่งแคระฟลอริดานั้นจะมีกระดิ่งตรงหางเป็นท่อนเดียว จึงมักไม่ค่อยทำเสียงสั่นดังเตือนให้รู้ตัว
- สังเกตเกล็ดใต้ท้องตรงปลายหาง งูพิษส่วนใหญ่จะมีเกล็ดบริเวณนั้นเพียงแถวเดียวในขณะที่งูไม่มีพิษจะมีสองแถว
- ตรวจดูใต้หางถ้าสามารถทำได้ ด้านใต้หาง (หลังรูทวาร) ของงูพิษนั้นจะดูเหมือนส่วนท้องที่เหลือทั้งหมด ถ้างูมีลายสลับ (อย่างเป็นรูปข้าวหลามตัดหรือรูปทรงเพชร) มันก็ไม่มีพิษ อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจสอบ เว้นแต่งูนั้นตายแล้ว
- ตรวจดูรอยกัดในกรณีที่ถูกงูกัด หากมีรอยทิ่มใกล้กันสองรูบ่งชี้ได้ว่างูนั้นมีเขี้ยวและมีพิษ ในทางตรงข้าม รอยกัดแบบเละแสดงว่างูไม่มีเขี้ยว ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของงูไม่มีพิษ แต่มีข้อยกเว้นตรงรอยกัดของงูปะการัง แต่นี่ก็ยังถือเป็นกฎสำคัญข้อแรกได้อยู่
- งูพิษ มีเขี้ยว 1 คู่ อยู่ตรงขากรรไกรบน เขี้ยวมีลักษณะเป็นรูกลวงคล้ายเข็มฉีดยา มีท่อติดต่อกับต่อมน้ำพิษ เมื่องูพิษกัดคนหรือสัตว์ ต่อมน้ำพิษจะปล่อยพิษไหลมาตามท่อ และออกทางปลายเขี้ยว คนที่ถูกงูพิษกัดจะพบรอยเขี้ยวเป็นจุด 2 จุด ตรงบริเวณที่ถูกกัด
- งูไม่มีพิษ จะไม่มีเขี้ยว มีแต่ฟัน เมื่อกัดคน จะเป็นแต่รอยถลอกหรือรอยถากเท่านั้น จะไม่พบรอยเขี้ยวงูไม่มีพิษ เช่น งูก้นขบ งูแสงอาทิตย์ งูปี่แก้ว งูเขียวปากจิ้งจก งูลายสาบ งูลายสอ งูงอด งูเหลือม และงูหลาม (2 ชนิดหลังตัวใหญ่ สามารถรัดลำตัว ทำให้ตายได้)(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าถูกงูที่มีพิษต่อเลือดกัด) หรืออาจตัดถูกเส้นเอ็นหรือเส้นประสาท รวมทั้งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
9. ดูงูน้ำว่าย มีแต่งูน้ำที่มีพิษจึงจะว่ายน้ำโดยมองเห็นทั้งลำตัวในน้ำ
ขั้นตอนการให้บริการ Happy House ป้องกันงู เชียงใหม่
|
ให้คำปรึกษาและแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับบริการป้องกันงู
|
|
ตรวจสอบและสำรวจหน้างาน เพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมินราคา
|
|
ออกใบเสนอราคาการให้บริการป้องกันงู
|
|
ลูกค้ายินยอมและเซ็นสัญญาการให้บริการ
|
|
ดำเนินการป้องกันงูโดยทีมงานมืออาชีพ
|
|
ลูกค้าตรวจสอบความเรียบร้อยพื้นที่หน้างาน ก่อนส่งมอบ
|
|
ส่งมอบงานให้แก่ลูกค้า
|
สำหรับลูกค้าท่านใดที่กำลังประสบปัญหาปลวก มด แมลงสาบ และสัตว์รบกวน Happy House รับกำจัดปลวก เชียงใหม่พร้อมยินดีให้บริการคุณอย่างครบวงจร โดยทีมงานคุณภาพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คอยให้บริการตรวจเช็ก ประเมินราคา และให้คำปรึกษาฟรี! เพื่อแก้ไขปัญหาให้ถูกจุดและทันท่วงที ทั้งบ้านพักอาศัย หอพัก คอนโด โรงแรม โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมรับประกัน 1 ปีเต็ม Happy House เราให้บริการในเขตพื้นที่ดังนี้ รับกำจัดปลวก เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และพื้นที่ใกล้เคียง
สอบถามรายละเอียดบริการกำจัดเเมลงสาบเพิ่มเติมได้ที่
Web Site :https://www.happyhouse.co.th/
โทร: : 065-648-8828
E-Mail : [email protected]
Facebook Page : HappyHouseCM
Line : @happyhousecm