หนู ถือเป็นสัตว์ที่นำเชื้อโรคเข้าบ้าน เมื่อพูดถึงหนู เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึงความสกปรก แถมยังรู้สึกขนลุกแบบอธิบายไม่ถูก หนูอาศัยอยู่เกือบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น ตลาด โรงเรียน บ้าน โดยเฉพาะถ้ามีหนูอยู่ในบ้าน อาจสร้างความไม่สบายใจสำหรับคนในครอบครัวได้เลยเนื่องจากหนูสามารถแพร่เชื้อโรค สิ่งสกปรกที่ติดมากับตัวหนู
1. ใช้กลิ่นสมุนไพร หรือ กลิ่นจากลูกเหม็นไล่หนู
สำหรับคนในบ้านที่สุด แถมยังไม่เป็นการทำร้ายหนูแบบทรมานอีกด้วย เป็นวิธีธรรมชาติที่นิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยสมุนไพรที่นิยมใช้ในการไล่หนู กะเพรา สะระแหน่ หรือใบมะกรูด เป็นต้น ซึ่งเป็นสมุนไพรที่หาซื้อได้ง่าย หรือบางบ้านอาจจะปลูกไว้อยู่แล้ว อาจจะเลือกสมุนไพรอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะใช้สมุนไพรหลายอย่างผสมกันก็ได้ โดยนำมาวางไว้บริเวณที่ต้องการจะไล่หนู ส่วนลูกเหม็น ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป นำมาวางไว้บริเวณที่ต้องการจะไล่หนูเช่นเดียวกัน เพียงเท่านี้หนูก็จะไม่เข้ามารบกวนหรือป้วนเปี้ยนบริเวณบ้านของเราอีกต่อไป เนื่องจาก หนูเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสในการรับกลิ่นดีมาก กลิ่นของสมุนไพรและลูกเหม็นมีความฉุน จะช่วยทำให้หนูไม่กล้าเข้ามาบริเวณนั้น นานๆ ไป หนูก็จะทำการอพยพไปจากบ้านของเราในที่สุด โดยทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นวิธีที่สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังเป็นการไล่หนูแบบไม่จำเป็นต้องฆ่าหนูอีกด้วย
2. ใช้กรงดักหนู
นิยมกันมาอย่างยาวนาน สะดวก ไม่ยุ่งยาก แค่มีกรงดักหนู วิธีนี้แม่บ้านก็สามารถทำได้ ไม่ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากคุณสามี แค่ใช้เศษอาหาร หรือชิ้นอาหาร ใส่เข้าไปในกรงเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อหนูให้หลงกล โดยให้นำกรงดักหนูไปวางบริเวณที่หนูชอบเข้าไปอาศัยอยู่ และรอให้หนูวิ่งเข้าไปในกรง จากนั้นประตูของกรงก็จะปิดลง เมื่อได้ตัวหนูแล้วก็ให้นำหนูในกรงไปปล่อยบริเวณที่ไกลจากบ้านหรือชุมชนของเราให้มากที่สุด ให้นำไปปล่อยไว้ตามธรรมชาติได้เลย โดยวิธีนี้ไม่เป็นการทรมานหนูอย่างแน่นอน เนื่องจากหนูสามารถหากินได้เองตามธรรมชาติ
3. เลี้ยงแมวหรือใช้ทรายแมว
สำหรับคนที่เป็นทาสแมวอยู่แล้ว เนื่องจากแมวเป็นเครื่องหมายการันตีว่าหนูจะไม่เข้ามาสร้างความรำคาญให้กับสมาชิกในครอบครัวอย่างแน่นอน เพราะหนูถือเป็นเหยื่อของแมวอยู่แล้ว แมวจะไม่นิ่งดูดายเมื่อมีหนูเข้ามาวุ่นวายบริเวณบ้านของเรา ส่วนหนูเมื่อได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงแมวก็จะหลีกเลี่ยงที่จะเข้ามาในบริเวณนั้นเด็ดขาด ส่วนใครที่ไม่ได้เลี้ยงแมวหรือไม่สะดวกจะนำแมวเข้าบ้าน ก็อาจจะใช้วิธีหาทรายแมว ที่มีกลิ่นฉี่แมวมาวางไว้บริเวณที่หนูอยู่ และเมื่อหนูได้กลิ่นก็จะหลีกเลี่ยงบริเวณนั้น รับรองว่าเป็นการไล่หนูที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนในบ้าน ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม ที่สำคัญไม่เป็นการทำร้ายหนู หรือฆ่าหนูอีกด้วย
4. ใช้เครื่องไล่หนู หรือใช้เสียงดังในการไล่หนู
นิยมทำในบ้านที่มีปริมาณหนูอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยอาจจะใช้เสียงดังจากการจุดประทัดบริเวรใกล้รังหนู จากนั้นหนูก็จะเกิดความตกใจและพากันอพยพไปในที่สุด เนื่องจากหนูมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อเสียงและกลิ่น แต่หากใครไม่สะดวกที่จะใช้วิธีนี้หรือคิดว่าเป็นวิธีที่รบกวนเพื่อนบ้านเกินไปก็สามารถใช้เครื่องไล่หนูได้ โดยตัวเครื่องไล่หนูจะทำงานคล้ายกับเครื่องไล่ยุง ใช้วิธีเสียบปลั๊กและเปิดตัวเครื่องทิ้งไว้ จากนั้นตัวเครื่องจะส่งสัญญาณคลื่นความถี่สร้างความรำคาญให้กับหนู จนทำให้หนูไม่สามารถอยู่ในบริเวณบ้านของเราต่อไปได้
5.ใช้บริการจากบริษัทกำจัดหนู
สำหรับคนที่ห่งสมาชิกในครอบครัวไม่ต้องการที่จะยุ่งกับหนูโดยตรง โดยสามารถเรียกบริษัทกำจัดหนู โดยทางบริษัทสามารถจัดการและหาวิธีแก้ปัญหาในการกำจัดหนูอย่างขาดถาวร เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วบริษัทแบบนี้จะชำนาญเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ถือเป็นวิธีที่สะดวก และถูกใจคนที่ไม่ต้องการจะจัดการปัญหากวนใจด้วยตัวเองเป็นที่สุด
ขั้นตอนการให้บริการ Happy House กำจัดหนู เชียงใหม่
สำหรับลูกค้าท่านใดที่กำลังประสบปัญหาปลวก มด เเมลงสาบ หนู งู Happy House รับกำจัดปลวก เชียงใหม่ พร้อมยินดีให้บริการคุณอย่างครบวงจร โดยทีมงานคุณภาพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คอยให้บริการตรวจเช็ก ประเมินราคา และให้คำปรึกษาฟรี! เพื่อแก้ไขปัญหาให้ถูกจุดและทันท่วงที ทั้งบ้านพักอาศัย หอพัก คอนโด โรงแรม โรงพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรม และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมรับประกัน 1 ปีเต็ม Happy House เราให้บริการในเขตพื้นที่ดังนี้ รับกำจัดปลวก เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และพื้นที่ใกล้เคียง
สอบถามรายละเอียดบริการกำจัดเเมลงสาบเพิ่มเติมได้ที่
Web Site :https://www.happyhouse.co.th/
โทร: : 065-648-8828
E-Mail : [email protected]
Facebook Page : HappyHouseCM
Line : @happyhousecm
บทความที่เกี่ยวข้อง
