รู้จัก งู 5 สายพันธุ์ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย

รู้จัก งู 5 สายพันธุ์ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย

25 ก.ย. 2567   ผู้เข้าชม 14

ประเทศไทยมีงูหลากหลายสายพันธุ์ เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสม ทั้งงูที่มีพิษและไม่มีพิษทำให้บางครั้งเราอาจพบเจอในพื้นที่ใกล้บ้าน หรือในพื้นที่ธรรมชาติ การเรียนรู้เกี่ยวกับงูแต่ละสายพันธุ์ที่พบได้บ่อย จะช่วยให้เราระมัดระวังและป้องกันอันตรายได้อย่างถูกวิธี

1. งูเห่าไทย (Naja kaouthia)

งูเห่าไทยเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง พิษของงูเห่าส่งผลโดยตรงต่อระบบประสาท หากถูกกัดอาจทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงและหายใจลำบากได้ งูเห่าไทยมักพบในพื้นที่ป่าโปร่ง ทุ่งนา และบริเวณใกล้ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน งูเห่าจะออกมาหาอาหารตามลานบ้านหรือถนนที่มีความชื้น สิ่งที่โดดเด่นของงูเห่าคือพฤติกรรมการตั้งตัวแผ่แม่เบี้ย และขู่ฟ่อเพื่อข่มศัตรู ถ้าเจองูเห่าควรอยู่นิ่ง ๆ และไม่รบกวนงู เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกกัด

2. งูจงอาง (Ophiophagus hannah)

งูจงอางเป็นงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สามารถยาวได้ถึง 5-6 เมตร พิษของงูจงอางมีผลต่อระบบประสาทและหัวใจ โดยทั่วไปงูจงอางจะไม่จู่โจมมนุษย์ หากไม่ถูกรบกวน แต่ถ้าเจอมนุษย์ในพื้นที่ที่มันอยู่ก็อาจแสดงพฤติกรรมปกป้องตัวเอง ด้วยขนาดใหญ่ของมัน งูจงอางมักอาศัยอยู่ในป่าทึบและใกล้แหล่งน้ำ มีพฤติกรรมล่าและกินงูอื่นเป็นอาหารหลัก แม้ว่าพิษของมันจะร้ายแรง แต่การพบงูจงอางนั้นไม่บ่อยมากเท่ากับงูเห่า

3. งูเขียวหางไหม้ (Trimeresurus albolabris)

งูเขียวหางไหม้เป็นงูที่มีพิษร้ายแรง พบได้ในป่าฝนและป่าชื้น มีลักษณะเด่นคือสีเขียวสดใส มีหางสีน้ำตาลหรือสีดำ พิษของงูเขียวหางไหม้มีผลต่อระบบเลือด ทำให้เกิดอาการเลือดออกง่ายและบวมช้ำ หากถูกกัดมักมีอาการบวมมากบริเวณที่ถูกกัด งูชนิดนี้มักพบอยู่ตามต้นไม้หรือพุ่มไม้ ทำให้มีโอกาสพบเจอได้บ่อยในเขตสวนหรือพื้นที่ป่าใกล้ชุมชน ความสามารถในการพรางตัวของมันทำให้อาจจะมองเห็นยาก แต่หากเดินผ่านพุ่มไม้หรือพื้นดินที่มันอาศัยอยู่ อาจถูกกัดได้ง่าย

4. งูทางมะพร้าว (Boiga dendrophila)

งูทางมะพร้าวเป็นงูไม่มีพิษที่พบได้ในพื้นที่ชุ่มน้ำหรือบริเวณใกล้แม่น้ำ ลักษณะพิเศษของงูชนิดนี้คือลำตัวที่มีลายสีดำและเหลืองเป็นแนวยาว งูทางมะพร้าวไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์และมีขนาดเล็กกว่างูชนิดอื่น แต่มักอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ หากพบงูชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลมาก แต่ควรระวังและไม่ควรจับโดยตรงเพื่อป้องกันอาการแพ้หรือบาดเจ็บจากการกัดเพราะแม้ว่าจะไม่มีพิษ แต่ก็ยังอาจทำให้เกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียในปากของงูได้

5. งูเหลือม (Python reticulatus)

งูเหลือมเป็นงูขนาดใหญ่ที่ไม่มีพิษ สามารถยาวได้ถึง 8 เมตร งูเหลือมพบได้ทั่วไปในป่าเขตร้อนและบางครั้งพบในพื้นที่ชุมชน มันเป็นสัตว์นักล่าที่จับสัตว์เล็ก ๆ เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก หรือสัตว์ปีกเป็นอาหารโดยใช้วิธีการรัดจนเหยื่อหมดสติ งูเหลือมไม่เป็นอันตรายโดยตรงจากพิษ แต่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและขนาดตัวของมันสามารถทำให้เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้หากเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากเกินไป

การป้องกันและการรับมือเมื่อพบงู

การรับมือกับงูที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้และไม่พยายามจับหรือฆ่างูด้วยตัวเอง การติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เช่น หน่วยกู้ภัยหรือทีมงานกำจัดสัตว์รบกวน จะช่วยให้จัดการงูได้อย่างปลอดภัย การป้องกันเพิ่มเติมเช่นการปิดช่องว่างใต้ประตูหรือตรวจสอบที่อยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการมีงูเข้ามาในพื้นที่ได้

งูเป็นสัตว์ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยมีหลากหลายสายพันธุ์ที่มีทั้งพิษและไม่มีพิษ ความรู้เกี่ยวกับงูที่พบในพื้นที่สามารถช่วยเพิ่มความระมัดระวังและช่วยให้ปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง หากพบงูในพื้นที่บ้านเรือนหรือที่อยู่อาศัย ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแล บริษัท แฮปปี้เฮ้าส์กำจัดปลวก มดและแมลง พร้อมให้บริการในการจัดการสัตว์ที่เป็นอันตรายเหล่านี้ ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากสัตว์รบกวนต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย


บทความที่เกี่ยวข้อง